สระผมด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นดีกว่ากัน?

รู้มั้ยคะว่า น้ำอุ่นกับน้ำเย็น(หรือน้ำอุณหภูมิปกติ) มีคุณสมบัติต่อการทำความสะอาดที่แตกต่างกันค่ะ วันนี้พี่เลยลองสรุปมาให้ จะได้ไม่ต้องเถียงกันว่าเราควรใช้น้ำอะไรสระผมกันแน่ 

น้ำอุ่น 

         น้ำอุ่น หรือจริงๆ ถ้าเป็นต่างประเทศก็คงเรียกว่าเป็นน้ำร้อนได้เลย โดยเฉพาะประเทศที่อากาศหนาวมากๆ แต่บ้านเรามักจะปรับอุณหภูมิให้อุ่นพอดีๆ พอให้ร่างกายผ่อนคลาย 
 

ข้อดี : ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกและความมันได้ดี โดยเฉพาะใครที่ผมมันมากๆ การสระผมด้วยน้ำอุ่นจะช่วยดึงเอาน้ำมันและสิ่งสกปรกตกค้างออกมาได้หมดค่ะ

ข้อเสีย : ความร้อนที่ไปเปิดเกล็ดผมเพื่อดึงเอาน้ำมันและสิ่งสกปรกออก ไม่เว้นแม้แต่น้ำมันที่เอาไว้เคลือบเส้นผมตามธรรมชาติ ทำให้ผมมีโอกาสแห้งเสียได้มากกว่าปกติ และยิ่งใครที่ทำสีผมมา จะเห็นชัดเลยว่าสีผมนั้นจางไปรวดเร็วมากๆ อีกด้วย

 

น้ำเย็น

          หรือน้ำอุณหภูมิปกติ พี่โอ๊ตเองก็เป็นคนนึงค่ะที่ชินกับการสระผมด้วยน้ำเย็น แม้จะอยู่ในช่วงที่อากาศเย็นมากก็ตาม

ข้อดี : น้ำเย็นช่วยให้เส้นผมของเราเงางามและนุ่มลื่น เพราะความเย็นทำให้เกล็ดผมถูกปิด ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและเหงื่อ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดีอีกด้วย
ข้อเสีย :  การสระด้วยน้ำเย็นเป็นประจำ อาจทำให้คนที่มีเส้นผมเล็กมากๆ เกิดภาวะผมลีบแบนได้ค่ะ แต่ในข้อเสียนี้อาจจะเป็นข้อดีสำหรับคนที่ผมชี้ฟูมากๆ เพราะน้ำเย็นจะช่วนให้ผมเรียบขึ้นนั่นเอง

 

ทั้งสองอย่างต่างก็มีข้อดีข้อเสีย แล้วเราควรสระผมด้วยน้ำแบบไหนกันแน่ล่ะ? 

ผมเส้นเล็ก ลีบแบน / ผมมัน : ให้สระผมด้วยน้ำอุ่น เพื่อเปิดเกล็ดผม เอาสิ่งสกปรกตกค้างและน้ำมันส่วนเกินออก จากนั้นปิดเกล็ดผมด้วยน้ำเย็นเล็กน้อยเป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ

ผมธรรมดา / ผมหนา / ผมชี้ฟู : สระด้วยน้ำเย็นจะดีที่สุด เพื่อให้เกล็ดผมปิด และคงความนุ่มลื่นเงางามเอาไว้ 

ผมทำสี : สระด้วยน้ำเย็น ไม่เปิดเกล็ดผม เพื่อคงสีผมให้อยู่ได้นานค่ะ