รับมืออย่างไร เมื่อมีอาการ "ตื่นตระหนก"



เคยไหม… ที่จู่ ๆ ต้องเผชิญกับความวิตกกังวล ความกลัว และตื่นตระหนก หัวใจของคุณเต้นเร็วขึ้น หายใจไม่ค่อยสะดวก คิดอะไรไม่ออก และเหงื่อแตก ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน และเกิดกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย บางครั้งหลาย ๆ คนที่เผชิญกับอาการตื่นตระหนกนี้แล้วไม่กล้าบอกคนอื่น ทำให้กลายเป็นคนเก็บตัวและไม่สุงสิงกับใคร ดังนั้นเราลองมาดูวิธีรับมือกับอาการนี้ดู


1. หาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการวิตกกังวลและตื่นตระหนก

ความวิตกกังวลเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายของเราต้องรีบตอบสนองต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หากคุณคิดจะหนีจากอาการด้วยการไม่เผชิญกับสิ่งที่ทำให้คุณมีอาการตื่นตระหนก วิตกกังวล บอกเลยว่าเป็นวิธีที่ผิด เพราะถ้าคุณหนีมันก็จะมีเรื่องใหม่ๆ มาทำให้คุณกลัวอีก แม้ว่าการต่อสู้กับอาการนี้มันอาจจะทำให้คุณกลัวจนถึงขั้นคิดว่าตัวเองจะเสียชีวิต แต่ขอบอกเลยว่าคุณจะไม่ตายเพราะอาการนี้แน่นอน
และเมื่อคุณรู้และเข้าใจเกี่ยวกับอาการแล้ว คุณจะรู้วิธีรับมือกับมันอย่างถูกต้อง เป้าหมายคือเราต้องกำจัดความตื่นตระหนกออกไปแล้วรับมือกับมันโดยไม่รู้สึกกลัว


2. รู้จักผ่อนคลาย

คุณต้องเรียนรู้วิธีที่จะผ่อนคลายร่างกาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้ มันจะฝึกให้ความคิดของคุณมีเหตุมีผลมากขึ้น และร่างกายจะปล่อยสารอย่างอะดรีนาลีนที่จะช่วยลดความเครียดลงได้
2.1 ลองฝึกการหายใจ
วิธีนี้จะช่วยให้มีอาการทางกายน้อยลง ลองทำอย่างน้อยครั้งละ 5 นาที วันละ 2 ครั้ง
  • หายใจเข้าช้าๆ อย่างน้อย 4 วินาที
  • กักลมหายใจไว้ 1-2 วินาที
  • หายใจออกช้าๆ อย่างน้อย 4 วินาที
  • พักหายใจปกติสัก 2-3 วินาที แล้วลองทำดูใหม่อีกครั้ง
2.2 ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
เป้าหมายของการผ่อนคลายกล้ามเนื้อคือลดความตึงและความเครียดของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะทำทุกวันเป็นปกติ ไม่ใช่ทำเมื่อมีอาการเท่านั้น
  • เกร็งกล้ามเนื้อให้ตึง อย่างเช่น คอ บ่า ไหล่
  • หายใจเข้าและเกร็งกล้ามเนื้อเท่าที่จะทำไหวประมาณ 5 วินาที
  • หายใจออกและค่อยๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  • ทำบริเวณละ 5 วินาที ก่อนจะเปลี่ยนไปผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณอื่น


3. ท้าทายความคิดของตัวเอง

ผู้ที่มีอาการตื่นตระหนก ในความคิดของเขาจะมีอยู่สองอย่างคือ คิดมากเกินไป กับ คิดว่านี่คือจุดจบของชีวิต สิ่งแรกที่พวกเขาควรจะทำคือการเปลี่ยนความคิดและเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง
หากคุณคิดมากจนเกินไป
การคิดมากเกินไปคือการคาดเดาว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น และให้เชื่อเถอะว่ามันไม่เกิดขึ้นจริงหรอก แล้วคุณควรหาเหตุผลมาประกอบกับความคิดของคุณ ลองตั้งคำถามกับตัวเองเสียใหม่ ซึ่งคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าสิ่งที่คุณกลัวไปเองนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง
  • คุณมีความคิดแบบนี้กี่ครั้งระหว่างที่มีอาการตื่นตระหนก
  • แล้วมันเคยเกิดขึ้นจริงไหม
  • แล้วคราวหน้าที่มีความคิดแบบนี้อีก มันจะเกิดขึ้นจริงๆ ไหม

หากคุณคิดว่านี่คือจุดจบของชีวิต
ให้คุณลองคิดว่าสิ่งร้ายแรงที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้คืออะไร แล้วลองคิดว่าคุณจะรับมือมันอย่างไร ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้ อาจจะเขียนมันออกมาเลยก็ได้
  • อย่างแย่ที่สุดมันจะเกิดอะไรขึ้น
  • มันจะแย่มากขนาดนั้นจริงเหรอ
  • มันจะมีผลกับชีวิตเราเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนหรือไม่
  • ควรจะเลือกรับมือกับมันด้วยวิธีไหนดี
  • เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นในอดีตไหม แล้วทำให้ชีวิตแตกต่างจากตอนนี้อย่างไร


4. ทำบัตรคำป้องกันตัวเองแล้วพกติดตัว

ความกลัวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน เรามีตัวอย่างคร่าวๆ ที่ควรเขียนลงในแต่ละบัตรคำ
  • นี่คือความยุ่งยาก ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว
  • ฉันกำลังตกหลุมพรางทางความคิด
  • ฉันกำลังสับสนระหว่างความคิดกับความจริง
  • คนอื่นจะมาบอกว่าเราวิตกกังวลไม่ได้
  • เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
  • ฉันรับมือกับเรื่องนี้ได้
การอ่านบัตรคำเหล่านี้จะช่วยให้คุณเปลี่ยนความคิดได้


5. เผชิญหน้ากับความกลัว

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการหนีจากสิ่งที่กลัวจะไม่ช่วยอะไรเลย เราควรเผชิญหน้ากับความกลัวไปเลย
การเผชิญหน้ากับภาวะร่างกายที่ตื่นตระหนก
คนที่มีอาการตื่นตระหนกส่วนมากจะเวียนศีรษะ มองอะไรไม่ค่อยชัด และหัวใจเต้นเร็วขึ้น วิธีที่จะรับมือกับอาการเหล่านี้คุณควรลองออกกำลังกายตามนี้ดู
  • ถ้ากลัวหัวใจจะเต้นเร็ว ลองวิ่งสัก 1 นาที
  • ถ้ากลัวอาการแน่นหน้าอก ลองวิ่งขึ้นลงบันไดสัก 1 นาที
  • ถ้ากลัวอาการหายใจผิดจังหวะ ให้ลองบีบปลายจมูกและหายใจเข้าออกผ่านรูเล็ก ๆ สัก 1 นาที
  • ถ้ากลัวการเวียนศีรษะ ลองเอียงศีรษะไปทางซ้ายและขวา ข้างละ 30 วินาที
  • ถ้ากลัวอาการตาพร่า ให้ลองจ้องไฟที่เพดานแล้วจากนั้นก็ลองอ่านอะไรบางอย่างดู

การเผชิญหน้ากับสถานการณ์และสถานที่
ลองเขียนสถานการณ์ สถานที่ กิจกรรม และสิ่งที่ทำให้คุณกลัว เรียงจากกลัวน้อยไปถึงมาก แล้วเริ่มจากการเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวน้อยก่อน ทำซ้ำ ๆ แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนระดับไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งคุณจะหายกลัวกับสิ่งเหล่านี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วันปิยมหาราช พระราชกรณียกิจ รัชกาลที่ 5

ไขมันทรานส์คืออะไร

วิธีลดเครียด-ลดเหงา เมื่อต้อง Work From Home นานๆ