ทำอย่างไรดี เมื่อเป็นเชื้อราที่ขาหนีบ

โรคเชื้อราเป็นโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน
เราเชื่อว่าผู้หญิงหลายคนต้องเคยเผชิญกับเชื้อราที่ขาหนีบแน่นอน เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนและโอกาสที่จะเกิดก็เป็นได้บ่อยมาก เพราะประเทศไทยเรานั้นเป็นเมืองร้อนเมื่อร่างกายเราเคลื่อนไหวไปมาจึงส่งผลให้บริเวณใต้ร่มผ้าอย่างขาหนีบเกิดความอับชื้นได้ง่าย เมื่อเราปล่อยไว้หรือหากใครที่แพ้ง่ายก็จะเกิดผื่นแดง และมีอาการคันตามมา โดยเชื้อราที่ขาหนีบนั้นหากไม่รักษาทันทีก็อาจทำให้ลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้อีกด้วย
เชื้อราที่ขาหนีบ เกิดจากอะไร
เชื้อราที่ขาหนีบเป็นโรคเชื้อราชนิดหนึ่งที่เกิดจากการติดเชื้อราในกลุ่ม Dermatophyte เมื่อผิวหนังบริเวณขาหนีบของเราเกิดการติดเชื้อชนิดนี้จะส่งผลทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิว ทำให้มีอาการคันและเป็นผดผื่นแดงที่บริเวณติดเชื้อ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเชื้อราที่ขาหนีบคือ การใช้เสื้อผ้าที่ไม่สะอาด ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ มีเหงื่อสะสมมากที่บริเวณขาหนีบ โดยสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดเชื้อราที่ขาหนีบได้ทั้งสิ้น
วิธีรักษาเชื้อราที่ขาหนีบ                     
สำหรับใครที่มักเกิดเชื้อราที่ขาหนีบเป็นประจำก็ไม่ควรชะล่าใจปล่อยไว้เป็นเวลานาน ให้รีบรักษาทันทีก่อนที่เชื้อราจะเกิดการลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ สำหรับการรักษาโรคเชื้อราที่ขาหนีบนั้นก็มีขั้นตอนการรักษาง่ายๆ คือ  
1.รักษาด้วยการทายาประเภท Ketoconazole โดยการทาที่บริเวณขาหนีบทุกเช้าและเย็น ประมาณ 2-3 สัปดาห์ จากนั้นเชื้อราก็จะค่อยๆ หายไป
2.หากทายารักษาเชื้อราแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งแพทย์อาจจะรักษาด้วยการให้ทานยาร่วมกับการทายา
3.หมั่นดูแลความสะอาดสุขภาพทั้งภายนอกและภายร่างกายให้ดีอยู่เสมอ เลือกใช้สิ่งของที่สะอาดไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับคนอื่น
โรคเชื้อราที่ขาหนีบจะไม่เกิดขึ้นกับตัวเราหากเราดูแลสุขภาพและอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ และหากเรารู้สึกว่ากำลังจะเป็นเชื้อราที่ขาหนีบก็ให้รีบรักษาเบื้องต้นทันที ไม่ควรปล่อยไว้นานแค่นี้เราก็จะไม่เกิดอาการคันเรื้อรังอีกแน่นอน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ไขมันทรานส์คืออะไร

เคบับ คืออะไร

"ตราครุฑ" ความหมายของตราแผ่นดินของไทย ทั้ง 2 แบบ