-: กำเนิดแว่นตาที่มีชื่อว่า Ray-Ban :-
-: กำเนิดแว่นตาที่มีชื่อว่า Ray-Ban :-
ย้อนไปในปี 1853 เรื่องมีอยู่ว่ามีชาวเยอรมันอพยพมาอยู่ในสหรัฐอเมริกา ชื่อ John Jacob Bausch และ Henry Lomb ในช่วงแรกทั้งคู่เปิดร้านเล็กๆ ทำธุรกิจในการผลิตเลนส์สายตา ต่อมาได้ก่อตั้ง บริษัท Bausch & Lomb
.
.
.
และในปี 1929 กองทัพอากาศของอเมริกาได้ให้ทางบริษัท Bausch & Lomb ออกแบบและผลิตแว่นตาชนิดพิเศษ ที่ช่วยให้นักบินสามารถมองเห็นในขณะทำการบินในระดับสูงๆ (การบินในระดับสูงๆ ต้องเจอปัญหาในเรื่องของความกดอากาศและแสงแดด ทำให้ประสิทธิภาพการมองเห็นของนักบินลดลง)
.
.
.
Bausch & Lomb ใช้เวลาประมาณ 7 ปี ในการพัฒนาแว่นตาจนได้แว่นตาแบบจำลองในปี 1936 หลังจากนั้นก็สามารถผลิตแว่นตายี่ห้อ Ray-Ban ได้สำเร็จในปี 1937 เป็นรุ่นที่ใช้สำหรับนักบิน ซึ่งต่อมาได้พัฒนาจนกลายเป็นรุ่นในตำนานที่ชื่อว่า Ray-Ban รุ่น Aviator
.
.
.
ซึ่งต่อมาแว่นตา Ray-Ban รุ่น Aviator ก็ได้ถูกส่งไปให้ทหารอเมริกันที่เข้าร่วมรบสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1939-1945 เพื่อช่วยป้องกันดวงตา จากแสงและฝุ่นต่างๆ ในสนามรบ และช่วงนั้นมีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ลงภาพขณะที่เครื่องบินลงจอดที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีภาพจอมพล Douglas MacArthur เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงพร้อมสวมแว่นตา Ray-Ban รุ่น Aviator ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักแว่น Ray-Ban มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคแรก
.
.
.
ในปี 1956 Ray-Ban ได้ออกแว่นกันแดดรุ่น The Wayfarer ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และปี 1982-1987 แว่นตา Ray-Ban ได้ถูกคนดังนำไปสวมใส่ในหนังดังและรายการทีวี เฉลี่ยแล้วกว่า 60 เรื่องต่อปี และหนึ่งในนั้นก็คือพระเอกหนุ่ม ทอมครูซ ที่เล่นหนังเรื่อง Risky Business เขาได้ใส่แว่นตารุ่น The Wayfarer และอีกหนึ่งตำนาน King of Pop อย่าง ไมเคิล แจ็กสัน ที่ใส่ Ray-Ban ตลอดเวลาทัวร์คอนเสิร์ต ยิ่งทำให้ยอดขายแว่นตา Ray-Ban เพิ่มขึ้นกว่า 50% เลยทีเดียว
.
.
.
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คำว่า "ธุรกิจ" ย่อมมีขึ้นมีลงเสมอ ซึ่งต่อมาพวกเค้าได้ตัดสินใจลดราคาและลดคุณภาพในการผลิตลง เพื่อหันไปลงทุนในด้านของ อุปกรณ์เสริมต่างๆ แทน จนสุดท้ายในช่วงปี 1990 คนอเมริกาก็เริ่มที่จะลืมสิ่งที่พวกเค้าเคยนิยมมาก่อน ส่งผลให้ Ray-Ban ถูกลดคุณค่าลงกลายเป็นแว่นกันแดดธรรมดาๆ เท่านั้น
.
.
.
*ปัจจุบัน Ray-Ban ไม่ได้เป็นของ Bausch และ Lomb แล้ว เนื่องจากในปี 1999 บริษัทได้ขายแบรนด์ Ray-Ban มูลค่ากว่า 21,120 ล้านบาท ให้กับบริษัทผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับแว่นตาที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากประเทศอิตาลี ที่ชื่อว่า Luxottica Group S.p.A.
.
.
.
**ซึ่งคงไม่มีใครคาดคิดว่าต้นกำเนิดของแว่นตาชื่อดัง Ray-Ban ที่มีอิทธิพลกับคนทั่วโลก และสร้างรายได้อย่างมหาศาล จะก่อตั้งโดย ผู้อพยพชาวเยอรมัน John Jacob Bausch และ Henry Lomb นั้นเองครับ
.
ที่มา www.primermagazine.com
.
.
.
และในปี 1929 กองทัพอากาศของอเมริกาได้ให้ทางบริษัท Bausch & Lomb ออกแบบและผลิตแว่นตาชนิดพิเศษ ที่ช่วยให้นักบินสามารถมองเห็นในขณะทำการบินในระดับสูงๆ (การบินในระดับสูงๆ ต้องเจอปัญหาในเรื่องของความกดอากาศและแสงแดด ทำให้ประสิทธิภาพการมองเห็นของนักบินลดลง)
.
.
.
Bausch & Lomb ใช้เวลาประมาณ 7 ปี ในการพัฒนาแว่นตาจนได้แว่นตาแบบจำลองในปี 1936 หลังจากนั้นก็สามารถผลิตแว่นตายี่ห้อ Ray-Ban ได้สำเร็จในปี 1937 เป็นรุ่นที่ใช้สำหรับนักบิน ซึ่งต่อมาได้พัฒนาจนกลายเป็นรุ่นในตำนานที่ชื่อว่า Ray-Ban รุ่น Aviator
.
.
.
ซึ่งต่อมาแว่นตา Ray-Ban รุ่น Aviator ก็ได้ถูกส่งไปให้ทหารอเมริกันที่เข้าร่วมรบสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1939-1945 เพื่อช่วยป้องกันดวงตา จากแสงและฝุ่นต่างๆ ในสนามรบ และช่วงนั้นมีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ลงภาพขณะที่เครื่องบินลงจอดที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีภาพจอมพล Douglas MacArthur เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงพร้อมสวมแว่นตา Ray-Ban รุ่น Aviator ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักแว่น Ray-Ban มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคแรก
.
.
.
ในปี 1956 Ray-Ban ได้ออกแว่นกันแดดรุ่น The Wayfarer ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และปี 1982-1987 แว่นตา Ray-Ban ได้ถูกคนดังนำไปสวมใส่ในหนังดังและรายการทีวี เฉลี่ยแล้วกว่า 60 เรื่องต่อปี และหนึ่งในนั้นก็คือพระเอกหนุ่ม ทอมครูซ ที่เล่นหนังเรื่อง Risky Business เขาได้ใส่แว่นตารุ่น The Wayfarer และอีกหนึ่งตำนาน King of Pop อย่าง ไมเคิล แจ็กสัน ที่ใส่ Ray-Ban ตลอดเวลาทัวร์คอนเสิร์ต ยิ่งทำให้ยอดขายแว่นตา Ray-Ban เพิ่มขึ้นกว่า 50% เลยทีเดียว
.
.
.
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คำว่า "ธุรกิจ" ย่อมมีขึ้นมีลงเสมอ ซึ่งต่อมาพวกเค้าได้ตัดสินใจลดราคาและลดคุณภาพในการผลิตลง เพื่อหันไปลงทุนในด้านของ อุปกรณ์เสริมต่างๆ แทน จนสุดท้ายในช่วงปี 1990 คนอเมริกาก็เริ่มที่จะลืมสิ่งที่พวกเค้าเคยนิยมมาก่อน ส่งผลให้ Ray-Ban ถูกลดคุณค่าลงกลายเป็นแว่นกันแดดธรรมดาๆ เท่านั้น
.
.
.
*ปัจจุบัน Ray-Ban ไม่ได้เป็นของ Bausch และ Lomb แล้ว เนื่องจากในปี 1999 บริษัทได้ขายแบรนด์ Ray-Ban มูลค่ากว่า 21,120 ล้านบาท ให้กับบริษัทผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับแว่นตาที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากประเทศอิตาลี ที่ชื่อว่า Luxottica Group S.p.A.
.
.
.
**ซึ่งคงไม่มีใครคาดคิดว่าต้นกำเนิดของแว่นตาชื่อดัง Ray-Ban ที่มีอิทธิพลกับคนทั่วโลก และสร้างรายได้อย่างมหาศาล จะก่อตั้งโดย ผู้อพยพชาวเยอรมัน John Jacob Bausch และ Henry Lomb นั้นเองครับ
.
ที่มา www.primermagazine.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น