จีนครบรอบ 70 ปี : อาวุธขนาดใหญ่จำนวนมากจะถูกนำร่วมสวนสนามแสดงแสนยานุภาพ
GETTY IMAGES
จีนจะจัดสวนสนามของกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในวันอังคารที่1 ต.ค. เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 70 ปีที่พรรคคอมมิวนิสต์ปกครองประเทศจีน รัฐบาลจีนระบุว่า จะขนอาวุธที่พัฒนาขึ้นเองในประเทศมาจัดแสดงในงานนี้ด้วย
เราจะเห็นอาวุธยุทโธปกรณ์อะไรบ้าง แล้วทำไมจีนจึงมีงบประมาณกองทัพที่มากเป็นอันดับสองของโลก
1 ต.ค. นี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
การสวนสนามของกองทัพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ จะจัดขึ้นที่จัตุรัสเทียนอันเหมินต่อหน้าผู้นำ เจ้าหน้าที่ทางการจีน ประชาชนที่ได้รับคัดเลือกมาก และเจ้าหน้าที่ทหาร 188 นาย จาก 97 ประเทศ
GETTY IMAGES
โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุเมื่อไม่นานนี้ว่า จีนไม่มีความตั้งใจ หรือจำเป็นในการ "อวดเบ่ง" ในการสวนสนามครั้งนี้ แต่ต้องการจะแสดงให้เห็นว่า "จีนรับผิดชอบและรักสันติ" แต่กระนั้น ความใหญ่โตของการสวนสนามก็มีทั้งคนชื่นชมและต่อว่า
กระทรวงกลาโหม รายงานว่า จะมีบุคคากรทางทหารเข้าร่วม 15,000 นาย รวมถึง หน่วยงานต่าง ๆ ของกองทัพ 59 แห่ง มีการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์รวม 580 ชิ้น และเครื่องบิน 160 ลำ บินผ่าน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะชมทหารที่เดินสวนสนามไปตามถนนฉางอัน ถนนสายสำคัญในกรุงปักกิ่ง ก่อนที่จะมีการแปรขบวนของเครื่องบิน ยานเกราะ และทหาร บริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน
นี่เป็นครั้งแรกที่กำลังสำรองรักษาสันติภาพสหประชาชาติของจีนอัน 8,000 นาย จะเข้าร่วมสวนสนามด้วย
เราจะเห็นอาวุธยุทโธปกรณ์อะไรบ้าง
กองทัพปลดปล่อยประชาชน (The People's Liberation Army--PLA) ตื่นเต้นที่จะได้แสดงอาวุธชนิดใหม่ที่ทันสมัย ซึ่งทางกองทัพระบุว่า ได้นำไปใช้งานแล้วทั้งหมด
GETTY IMAGES
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของ PLA ได้เน้นย้ำถึงขีดความสามารถของยานพาหนะไร้คนขับและล่องหน และขีปนาวุธชนิดใหม่ โดยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราคาดว่าจะได้เห็นในการสวนสนามคือ:
- จะมีการเปิดตัวขีปนาวุธข้ามทวีป DF-41 รุ่นล่าสุด ซึ่งนักวิเคราะห์จีน ระบุว่า สามารถโจมตีเป้าหมายได้ทั่วโลก คาดว่า สามารถบรรทุกหัวรบขีปนาวุธกลับสู่ชั้นบรรยากาศแบบแยกเป้าโจมตีได้หลายหัวรบ (multiple, independently targetable re-entry vehicles--MIRV) ได้จำนวน 10 หัวรบ โดยหัวรบ MIRV 1 หัวรบ สามารถส่งไปโจมตีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ 1 แห่ง แต่สามารถแยกโจมตีเป้าหมายได้ 10 จุดในบริเวณกว้าง
- ระบบขีปนาวุธ DF-17 ซึ่งสามารถบรรทุกเครื่องร่อนความเร็วเสียง ที่คล้ายกับระบบอแวนการ์ด (Avangard) ของรัสเซีย พาหนะประเภทนี้สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วมากอย่างเหลือเชื่อ เพื่อหลบหลีกการตรวจจับของระบบป้องกันขีปนาวุธได้
- ระบบขีปนาวุธใหม่ยังรวมถึง ขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน ขีปนาวุธต่อต้านเรือ รวมถึงเครื่องยิงจรวดพิสัยไกลพร้อมกันหลายลูกแบบใหม่ด้วย
- เครื่องบินไร้คนขับ 2 แบบ คือ โดรนสอดแนมและโจมตีเป้าหมายความเร็วเหนือเสียงที่ชื่อว่า DR-8 และโดรนล่องหนปีกค้างคาวที่ถูกขนานนามว่า ชาร์ปซอร์ด (Sharp Sword) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ปล่อยจากเรือบรรทุกเครื่องบินได้
- เครื่องบินขนส่ง Y-20 เครื่องบินรบล่องหน J-20 และเครื่องบินสอดแนมและแจ้งเตือนภัย
- เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ H6-N รุ่นใหม่ ที่สามารถเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ และบรรทุกขีปนาวุธทิ้งตัวที่ยิงจากบนท้องฟ้าได้
GETTY IMAGES
GETTY IMAGES
PLA เน้นย้ำว่า การสวนสนามนี้จะแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมระดับใหม่ ๆ ของอุตสาหกรรมป้องกันภายในประเทศ และขีดความสามารถในการโจมตีที่พัฒนาขึ้น
จีนใช้เงินมากแค่ไหนกับการทหาร
จีนเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารมากขึ้นอย่างมาก และยิ่งมากขึ้นไปอีกนับตั้งแต่นายสี ประกาศการปฏิรูปที่สำคัญหลายอย่างในปี 2015
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา งบกลาโหมของจีนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% ต่อปี ปัจจุบันอยู่ที่ $1.682 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.1 ล้านล้านบาท) มากเป็นอันดับ 2 ของโลก

จนถึงขณะนี้ จีนเป็นชาติที่ลงทุนด้านกลาโหมมากที่สุดในเอเชีย โดยในปี 2018 ใช้เงิน 5.61 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท) ในการจัดซื้ออาวุธ วิจัยและพัฒนาด้านกลาโหม ซึ่งคิดเป็นกว่า 33% ของงบประมาณด้านกลาโหมทั้งหมดของจีน สมุดปกขาวกลาโหมล่าสุดระบุว่า เป็นค่าใช้จ่ายที่ "เหมาะสมและสมเหตุสมผล"
การเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมของจีนดูจะอ่อนด้อยลงเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายด้านนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งยังคงเป็นชาติที่ใช้จ่ายด้านกลาโหมสูงที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ที่ 6.433 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 19.7 ล้านล้านบาท) ในปี 2018.

รัฐบาลจีนแย้งว่า แม้จีนจะเป็นชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แต่การใช้จ่ายด้านกลาโหมของจีนน้อยกว่า 1 ใน 4 ของค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมของสหรัฐฯ ในปี 2017 และคิดเป็น 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,000 บาท)ต่อหัวประชากร หรือคิดเป็นราว 5% ของค่าใช้จ่ายกลาโหมต่อหัวประชากรของสหรัฐฯ เท่านั้น
จีนคิดถึงความจำเป็นในการใช้กำลังทหารอย่างไร
จีนบอกว่า กำลังสร้าง "กองทัพที่แข็งแกร่ง" เพื่อให้สอดคล้องกับจุดยืนในระดับนานาประเทศของจีน และลดช่องว่างกับชาติที่เป็นผู้นำด้านการทหารในระดับโลกชาติอื่น ๆ
GETTY IMAGES
เหตุผลในการที่จีนให้ความสำคัญกับงบประมาณกลาโหมมาจากสมุดปกขาวของจีน ซึ่งในช่วงเริ่มต้นของรายงานได้กล่าวหาสหรัฐฯ ว่า ยั่วยุและเพิ่มการแข่งขันในกลุ่มประเทศที่สำคัญ มีการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมอย่างมาก เพิ่มขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ อวกาศ ไซเบอร์ และการป้องกันขีปนาวุธ นอกจากนี้ยังทำลายเสถียรภาพทางยุทธศาสตร์ของโลกด้วย
ส่วนเรื่องที่จีนเห็นว่าเป็นความท้าทายและความเสี่ยงด้านความมั่นคงสูงสุด คือ การต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่กำลังมีความรุนแรงมากขึ้น และการปกครองไต้หวันของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party) ซึ่งยึดมั่นในการเป็นเอกราชของไต้หวัน
จีนเห็นว่า ไต้หวันเป็นมณฑลที่แยกตัวออกไป ซึ่งจะถูกนำกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ในสักวันหนึ่ง และหากจำเป็นก็ต้องมีการใช้กำลัง การรวมชาติกันของจีนและไต้หวันเป็นส่วนสำคัญของเป้าหมาย "การฟื้นฟูชาติ" ของประธานาธิบดีสี ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญในการสวนสนามครั้งนี้ด้วย
- กองทัพจีนขึ้นแท่นทรงแสนยานุภาพทัดเทียมสหรัฐฯ
- จีนลั่นเตรียมตอบโต้ หลังเรือรบสหรัฐฯ เฉียดเกาะพิพาททะเลจีนใต้
ขณะที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในอีก 3 เดือนข้างหน้า การแสดงขีปนาวุธ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และเทคโนโลยีล่องหนในการสวนสนามครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนการส่งสัญญาณป้องปรามไต้หวัน
การสวนสนามนี้ จะแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ของจีนในการปกป้องผลประโยชน์หลักของชาติด้วย รวมถึง การอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาทกันอยู่
GETTY/DIGITALGLOBE
ยกตัวอย่าง อาจมีการยิงขีปนาวุธเพื่อปกป้องฐานทัพอากาศและฐานทัพเรือแห่งใหม่ ที่สร้างขึ้นบนเกาะแนวปะการังที่จีนถมทะเลในหมู่เกาะสแปรตลีย์ โดยจีนได้ซ้อมยิงขีปนาวุธต่อต้านเรือในทะเลจีนใต้ในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
ขีดความสามารถต่าง ๆ เหล่านี้เชื่อว่า เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของจีนที่ชื่อว่า A2AD (Anti-Access, Area Denial) เพื่อป้องกันสหรัฐฯ ไม่ให้เข้ามาในทะเลจีนใต้
กองทัพจีนใกล้เคียงกับสหรัฐฯ หรือไม่
หนึ่งในสิ่งที่การสวนสนามในวันอังคารนี้จะต่างไปจากการสวนสนามครั้งใหญ่ของจีนในปี 2015 คือ การแสดงทางอากาศ
GETTY IMAGES
ในการสวนสนามวันแห่งชัยชนะ วาระครบรอบ 70 ปีที่จีนมีชัยเหนือญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรวมมีความขึงขังเอาจริงเอาจัง แต่การสวนสนามครั้งนี้ต้องการเฉลิมฉลองความสำเร็จของจีนในด้านนวัตกรรมกลาโหมและการผลิตเองของจีน
สารสำคัญคือ PLA ได้ขยับเข้าสู่ยุคใหม่แล้วอย่างแท้จริง นั่นก็คือ ยุคของ สี จิ้นผิง หลังจากที่มีการปฏิรูปอย่างกว้างขวางในหลายด้าน และตั้งเป้าที่จะเป็นกองทัพที่ทันสมัยภายในปี 2035 และกองทัพชั้นนำระดับโลกในปี 2049
แม้ว่าการสวนสนามของกองทัพที่ยิ่งใหญ่ตระการตาอาจแสดงให้เห็นถึงการลงทุนมหาศาลของจีน แต่ไม่สามารถแสดงออกถึงขีดความสามารถทางทหารโดยรวมของ PLA
ความจำเป็นของจีนในการพัฒนาโครงสร้างเงินเดือนของกองทัพ การบรูณาการด้านการส่งกำลังบำรุงทหาร และการฝึกหัดหน่วยทหารต่าง ๆ ต่างก็มีส่วน นอกจากนี้ เป้าหมายในการปฏิรูปกองทัพอันทะเยอทะยานของจีน ทำให้ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างกำลังและการบัญชาการใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องใช้งบประมาณมหาศาล
แม้จีนจะนำอาวุธที่ทันสมัย น่าตื่นตาตื่นใจ มาจัดแสดงในขบวนสวนสนาม แต่ PLA ยังต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปี จึงจะสามารถไปถึงจุดที่มีขีดความสามารถทางการทหารเทียบเท่ากับของสหรัฐฯ
อเล็กซานเดอร์ นีลล์ เป็นนักวิจัยอาวุโสด้านความมั่นคงเอเชียแปซิฟิก ที่สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ (International Institute for Strategic Studies--IISS)


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น