บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2019

ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์

รูปภาพ
ประวัติ วันวาเลนไทน์  (Valentine's Day) เทศกาลวาเลนไทน์  ( Valentine's Day )  เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็น วันหยุด เพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโน ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการ แต่งงาน  และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้าย และทรงนิยมการทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมในกองทัพ เนื่องจากไม่อยากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงาน กันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีนี้เองจึง

กำเนิดซานตาคลอส วันคริสต์มาส

รูปภาพ
เรื่องเล่าในตำนาน กำเนิดซานตาคลอส วันคริสต์มาส ซานตาคลอส (santa claus) เป็นบุคคลที่มีจุดกำเนิดทางตำนาน เทพปกรณัม ประวัติศาสตร์และตำนานพื้นบ้าน ตามวัฒนธรรมตะวันตกหลายประเทศ กล่าวกันว่าเขาเป็นผู้นำของขวัญไปยังบ้านของเด็กดีในช่วงเย็นและข้ามคืนวันคริสต์มาสอีฟ วันที่ 24 ธันวาคม ต้นกำเนิดที่แท้จริงของ ซานต้า! เรื่องของเรื่องมีว่ามีเด็กชายคนหนึ่งเกิดในหมู่บ้านไมรา ซึ่งสมัยก่อนโน้นตั้งอยู่ระหว่างเกาะโรดส์กับไซปรัส ใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  ในตุรกี สมัยยุคศตวรรษที่  4   ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือสำราญชื่นชมบรรยากาศ เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า  “นิโคลัส” (เ ซนต์นิโคลัส แห่ง ไมรา  ( Saint Nicholas of Myra ) )  ชีวิตของเขาอยู่บนกองเงินกองทองเพราะพ่อแม่อยู่ในขั้นคหบดี สงสัยจะทำบุญมาแต่ชาติปางก่อนแต่ทว่าในความโชคดี ก็ย่อมมีความโชคร้าย ไม่ช้าไม่นานพ่อแม่ก็ถึงแก่กรรม ทรัพย์สินจึงตกเป็นของเขาเพียงผู้เดียว แต่น่าแปลกที่นิโคลัสกลับมีใจโอบอ้อมอารีต่อคนยากคนจน  ชอบแจกสมบัติช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรืออาจจะพบสัจธรรมที่ว่า แท้จริงแล้วเงินทองก็คือสิ่งสมมุติ ความสุขทางใจมีค่ามากกว่า เพราะมั

ประวัติศาสตร์ “มวยไทยสากล”

รูปภาพ
คณะมวยนักเรียน (มวยฝรั่ง) ของโรงเรียนมัธยมวัดปทุมคงคา ถ่ายเมื่อ 27 มี.ค. พ.ศ. 2467 แถวหลังคนที่สามจากซ้ายคือนายโม่ สัมบุณณานนท์ (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม มิถุนายน 2526) ในสมัยรัชกาลที่  5  และ  6  ได้มีการนำเอากีฬาและการบันเทิงหลายอย่างมาจากยุโรป   ซึ่งสมัยนั้นมักเรียกกันว่า  “ แบบฝรั่ง”  เช่น   เพลงฝรั่ง ,  เครื่องสายฝรั่ง ,  หนังฝรั่ง   เป็นต้น   คำว่า “ แบบฝรั่ง”  นี้ต่อมาบางทีใช้เป็น “ แบบสากล”  ดังเช่นเมื่อนำดนตรีแบบฝรั่งเข้ามาปรับปรุงเข้ากับเนื้อร้องไทย   ก็เรียกกันว่าเป็น “ เพลงไทยสากล”  การชกมวยแบบฝรั่ง   มีการสวมนวมและใช้กฎกติกาแบบตะวันตก   เมื่อเข้ามาแรก ๆ   ก็เรียกกันว่า “ มวยฝรั่ง”  ต่อมาจึงเรียกกันเสียใหม่ว่า “ มวยสากล ”  มวยฝรั่ง   หรือมวยสากล   ต่างจากมวยไทยที่ในการชกกันจะใช้หมัดเป็นอาวุธเพียงอย่างเดียว   ไม่ได้ใช้ศอก   เข่า   และเท้าอย่างมวยไทย   มวยสากลนั้นกว่าจะมาเป็นแบบปัจจุบันมีพัฒนาการมายาวนาน   รูปหล่อสำริดของนักมวยผู้ชนะการแข่งขันโอลิมปิคครั้งที่  141  เมื่อก่อนคริสตกาล  216  ปี   ทำให้รู้ว่าในสมัยโรมันโบราณก็มีการแข่งขันมวยแล้ว   และทำให้รู้ด้วยว่ามวยในยุคนั้น