ไขปริศนา “The Pool” จระเข้ปีนขึ้นท่อได้จริงไหม?
ไขปริศนา “The Pool” จระเข้ปีนขึ้นท่อ ได้จริงไหม?
หลังตัวอย่างของภาพยนตร์ “The Pool นรก 6 เมตร” ออกเผยแพร่ นอกจากจะสร้างความสงสัยว่าตัวละครหลักในภาพยนตร์จะสามารถปีนออกจากสระว่ายน้ำความลึก 6 เมตรได้อย่างไรแล้ว อีกหนึ่งข้อสงสัยใหญ่ไม่แพ้กันคืออุปสรรคที่มีชีวิต มันคือ “จระเข้” ที่บังเอิญเข้ามาติดอยู่ในสระว่ายน้ำร่วมกับตัวละคร
“The Pool” ว่าด้วยเรื่องราวของ เดย์ ฝ่ายอาร์ตกองโฆษณาที่เผลอหลับบนแพยาง โดยไม่ทราบว่าน้ำในสระได้ถูกปล่อยไปแล้ว เขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดออกไปจากสถานการณ์นี้ให้ได้ จากตัวอย่างที่ปล่อยออกมาจะเห็นภาพความพยายามเอาชีวิตรอดของตัวละครด้วยการลองหลากหลายวิธี ฉากที่น่าสะพรึงที่สุดคือการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตที่ไม่เป็นที่ต้อนรับในนาทีที่ 1.30 เมื่อมันมุดขึ้นมาจากท่อ อันที่จริงหากได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ “The Pool” บอกเล่าที่มาของจระเข้อย่างชัดเจนว่ามันเข้ามาติดอยู่ในสระว่ายน้ำด้วยได้อย่างไร ทว่าการปรากฏตัวขึ้นจากท่อยังคงเป็นปริศนาคาใจว่าในโลกแห่งความเป็นจริงจระเข้ “ปีน” ขึ้นมาจากท่อระบายน้ำได้จริงไหม? และมีอะไรบ้างที่พวกมันปีนได้?
ปีนต้นไม้ได้แน่นอน
หากคุณตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเมื่อต้องเผชิญหน้ากับจระเข้ และตั้งใจที่จะปีนหนีขึ้นต้นไม้ ขอให้รู้ไว้ว่าต้นไม้ไม่ใช่ที่ปลอดภัยเสมอไป เพราะจระเข้ปีนต้นไม้ได้! จากงานวิจัยที่เผยแพร่ลงใน Herpetology Notes ระบุว่า แม้สรีระของจระเข้จะไม่ได้วิวัฒนาการมาเพื่อโหนกิ่งไม้ไปมาเช่นลิง หรือสลอธ แต่พวกมันสามารถไต่ลำต้นของต้นไม้ได้ ด้วยขาและเล็บอันแข็งแรง
ในการสำรวจว่าบ่อยแค่ไหนที่จระเข้จะปีนขึ้นต้นไม้ตามธรรมชาติ รายงานระบุว่าในสามทวีปตั้งแต่ต้นไม้ในออสเตรเลีย ไปจนถึงป่าโกงกางของอเมริกากลางล้วนเคยมีผู้พบเห็นจระเข้ปีนไปเกาะอยู่บนต้นไม้ ในขณะที่แอฟริกาเอง ชาวอียิปต์เคยพบเห็นลูกจระเข้อยู่บนต้นไม้ที่สูงเหนือแม่น้ำไนล์ถึง 10 เมตรเลยทีเดียว โดยในจำนวนนี้พวกเขาพบจระเข้จำนวน 4 สายพันธุ์ที่มีความสามารถในการปีนต้นไม้
“ผู้คนที่มีชีวิตใกล้แหล่งจระเข้รู้พฤติกรรมนี้ดี แต่สำหรับคนทั่วไปนี่เป็นเรื่องใหม่” Vladimir Dinets ศาสตราจารย์ผู้นำการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซีกล่าว “และหลักฐานทางวิวัฒนาการเองก็บ่งชี้ว่าในสายพันธุ์จระเข้ที่สูญพันธุ์ไปแล้วนั้น พวกมันมีความสามารถในการปรับตัวเพื่อปีนต้นไม้ได้ดีกว่าจระเข้ในปัจจุบันเสียอีก”
อัลลิเกเตอร์ปีนขึ้นต้นไม้ ภาพจากรัฐมิสซิสซิปปี พฤติกรรมดังกล่าวเป็นที่พบเห็นได้ทั่วไป
ว่าแต่พวกมันปีนขึ้นไปทำไม? ในฐานะสัตว์เลื้อยคลาน พวกมันต้องการความร้อนจากแสงแดดเพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ และช่วยให้ร่างกายอบอุ่น นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าจระเข้เหล่านี้ตั้งใจปีนขึ้นไปบนที่สูงเพื่อรับแสงแดดให้มากขึ้น ดังนั้นในสภาพแวดล้อมที่ยากจะหาพื้นที่ตากแดด ทีมวิจัยระบุว่าให้ลองมองดูบนต้นไม้คุณอาจจะพบจระเข้ หรือบางทีพวกมันอาจต้องการล่าเหยื่อใหม่ๆ ก็เป็นได้ อย่าลืมว่าพวกมันเป็นสัตว์แข็งแรงมาก จระเข้สามารถลากเหยื่อที่ใหญ่กว่าลงไปในน้ำได้ แค่เรืองปีนต้นไม้คงไม่เกินกำลังของมัน อย่างไรก็ดีด้วยความที่จระเข้เป็นสัตว์ขี้ตกใจ เมื่อนักวิจัยเริ่มเข้าไปใกล้จระเข้ที่อยู่บนต้นไม้ พวกมันก็หนีลงน้ำไปเสียแล้ว…
สำหรับคำถามสำคัญที่ว่าจระเข้จะสามารถปีนขึ้นมาจากท่อได้ไหมนั้น เริ่มต้นจากการพิจารณาลักษณะของท่อ จากในภาพยนตร์เมื่อตัวละครมุดเข้าไปในท่อพวกเขาต้องนั่งคุดคู้ และเคลื่อนที่ไปมาด้วยการคลาน คาดว่าความสูงของท่อไม่น่าจะเกิน 1 เมตร หากรวมช่วงแนวดิ่งก็น่าจะราว 1.50 – 1.80 เมตร ทว่าพื้นผิวที่เรียบและลื่นของท่อซึ่งแตกต่างจากเปลือกไม้กลับไม่เป็นปัญหาเหมือนที่ใครหลายคนคิด
ภาพตัวอย่างจำลองการปีนขึ้นจากท่อในลักษณะเดียวกับภาพยนตร์ “The Pool นรก 6 เมตร” จระเข้สามารถใช้หางดันตัวเองขึ้นมาได้
คุณมนตรี สุมณฑา นักวิจัยปลาและสัตว์เลื้อยคลาน กรมประมง ให้ความเห็นว่า จากขนาดของจระเข้ในตัวอย่างแล้วมีความเป็นไปได้ที่จระเข้จะสามารถยกตัวขึ้นมาจากท่อได้ด้วยการใช้หางและขาหลังช่วยดันเหมือนสปริง ซึ่งอวัยวะดังกล่าวเป็นอวัยวะที่แข็งแรงมาก “จระเข้ตัวประมาณในเรื่องสามารถปีนออกจากบ่อสูง 2 เมตรได้สบายๆ โดยใช้หางช่วยครับ” คุณมนตรีกล่าว พร้อมเสริมว่าขนาดของจระเข้มีความสัมพัทธ์กับความยาวของท่อ หากตัวใหญ่กว่านี้ส่วนหัวอาจติดขัดช่วงที่ท่อหักจากแนวนอนไปเป็นแนวดิ่งสู่ฝาท่อระบายน้ำ “แต่ถ้าตัวเล็กกว่านี้ก็ยังพอใช้หางดันตัว หรือตะกุยขึ้นมาได้” เขากล่าว
อันที่จริงในต่างประเทศมีรายงานข่าวพบจระเข้ปีนรั้วบ่อยครั้ง ยกตัวอย่างจากจระเข้อินเดียตัวนี้ที่สามารถปีนรั้วความสูง 1.20 เมตร ออกไปยังแหล่งน้ำ ในขณะที่สายพันธุ์สัตว์เลื้อยคลานที่มีบรรพบุรุษร่วมกันอย่างตัวเงินตัวทองนั้น หากเป็นท่อลักษณะดังกล่าวพวกมันสามารถปีนออกมาได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะกำแพงที่ใช้กั้นตัวเงินตัวทองโตเต็มวัยนั้นต้องสูงถึง 1.80 เมตรเลยทีเดียว
จระเข้ในรัฐราชสถาน ทางตอนเหนือของอินเดียปีนรั้วความสูง 1.20 เมตรออกไปยังแหล่งน้ำ
พญาชาละวัน ตำนานจระเข้แห่งเมืองพิจิตร แตกต่างจากพ่อที่เป็นจระเข้ทรงศีลไม่กินเนื้อสัตว์ ชาละวันกลับอาละวาดสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน
ทว่าหากมองในมุมของทฤษฎีวิวัฒนาการแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปลี่ยนมุมมองของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ หากความเกลียดกลัวที่เกิดขึ้นเป็นสัญชาตญาณ สถาบันมักซ์พลังค์ในเยอรมนีเคยทดลองว่าทารกวัย 6 เดือนมีความกลัวสัตว์หรือไม่? ด้วยการทดสอบปฏิกิริยาที่มีต่อรูปภาพต่างๆ ผลการทดลองพบว่าเมื่อทารกเห็นภาพงูและแมงมุม พวกเขาตอบสนองด้วยรูม่านตาที่เบิกกว้าง บ่งชี้ว่าความหวาดกลัวลักษณะนี้อาจเป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาตามธรรมชาติ อย่างไรก็ดีผลการทดลองนี้ยังไม่สามารถให้เหตุผลได้ว่า ถ้าเช่นนั้นทำไมบางคนจึงเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานหรือแมงมุมเป็นสัตว์เลี้ยง? (อ่านเกี่ยวกับการทดลองเพิ่มเติมได้ ที่นี่)
“ก็เป็นไปได้นะครับ เพราะคนเราก็วิวัฒนาการมาจากลิง ในธรรมชาติสัตว์ที่ล่าเราก็คงหนีไม่พ้น เสือ จระเข้ งู สิ่งนี้อาจฝังในหัวเรามาตั้งนานแล้ว” คุณรุจิระให้ความเห็น “สำคัญคือการสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นก่อนครับ แค่รับรู้ว่าบทบาทของจระเข้ในธรรมชาติมันมีความสำคัญ ดีต่อระบบนิเวศยังไง แค่นั้นก็โอเคแล้วครับ”
ฉะนั้นแล้วหากใครที่ยังคงฝังใจกับชาละวันเอย หรือไอ้ด่างเกยชัยเอย ก็ไม่ผิดอะไร เพียงตระหนักไว้ว่าหากคุณไม่ทำอะไรมันก่อน วายร้ายเหล่านี้ก็ไม่อยากทำร้ายคุณเช่นกัน ในกรณีที่คุณไม่ได้เอาตัวเองไปเสี่ยง เช่น ลงว่ายน้ำในพื้นที่ห้าม หรือบุกรุกเข้าไปในถิ่นที่อยู่ของมัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น